เทคนิคการล้างแอร์ Daikin

แอร์ Daikin

หงายๆคนคงทราบและรู้จักแอร์ยี่ห้อนี้ดีแอร์Daikinได้รับการยอมรับจากผู้ใช้จำนวนมากว่าเครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงและช่วยประหยัดพลังงาน แอร์Daikin เป็นหนึ่งในเครื่องปรับอากาศที่มีอยู่หลายแบบ  ไม่ว่าจะสำหรับเป็นแอร์บ้าน  หรือจะติดในโรงงาน ตึกใหญ่ๆ แอร์ Daikin มีคุณสมบัติดีๆมากมายแต่วันนี้เราไม่ได้มาคุยกันเรื่องคุณสมบัติของแอร์Daikin แต่เราจะมาคุยกันเรื่องการล้างทำความสะอาดของ แอร์Daikin ต่างหาก  แน่นอนว่าแอร์หรืออะไรไรก็แล้วแต่เมื่อใช้งานนานๆก็ย่อมสกปรกเป็นธรรมดาและยิ่งเป็นแอร์แล้วล่ะก็ต้องทำความสะอาดบ่อยๆเพราะแอร์กรองเอาสิ่งสกปรกเข้าไปและปล่อยอากาศที่สะอาดๆออกมาเมื่อกรองไปนานๆสิ่งสกปรกก็จะสะสมอยู่ข้างในเป็นจำนวนมากและไม่สามารถกรองได้อีก นี่แหละคือเหตุผลที่ต้องล้างแอร์

เทคนิคการล้างแอร์Daikin

ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าถ้าล้าง แอร์แอร์ Daikin แล้วใช้งานไม่ได้หรือใช้งานได้ระยะเวลาหนึ่งแล้วเครื่องหยุดการทำงานหรือถ้าเช็ค error code จะได้ “A6” แสดงว่าตัวมอเตอร์พัดลมชุดคอล์ยเย็นมีปัญหาหรือเสีย เนื่องจากการล้างแอร์ไม่ถูกต้องนั่นเอง

มอเตอร์พัดลมของแอร์Daikin จะมีแผงวงจรไฟฟ้าฝังอยู่ภายในมอเตอร์ ซึ่งถ้าล้างแอร์แบบทั่วไป จะส่งผลต่อตัวแผงวงจรไฟฟ้าในมอเตอร์ทำให้ได้รับความเสียหายได้

1. เปิดเครื่องปรับกาศเพื่อทดสอบการทำงานว่าปกติหรือมีความผิดปกติอะไรบ้างก่อนที่จะลงมือล้างแอร์

2. ปิดเบรกเกอร์แอร์

3. ถอดสายมอเตอร์พัดลมออกจากแผงควบคุมหลักของ แอร์ Daikin

4. นำพลาสติกห่อหุ้มส่วนที่เป็นวงจรไฟฟ้าและมอเตอร์เพื่อป้องกันน้ำเข้า

5. การล้างใบพัดลมถ้าฉีดน้ำล้างในกรณีไม่ได้ถอดพัดลมลมกับมอเตอร์ออกจากกัน ให้ประคองใบพัดลม

ด้วยมือให้มอเตอร์หมุนช้า ๆ หรืออย่าให้หมุนจะดีที่สุด ถ้าปล่อยให้มอเตอร์หมุนขณะจะทำให้มอเตอร์พัดลมเสีย

6. หลังจากล้างใบพัดลมเสร็จให้เสียบสายมอเตอร์กลับเข้าไปเหมือนเดิม

7. แผงอีแวปอเรเตอร์และแผงคอนเดนเซอร์ให้ล้างตามปกติทั่วไป

8. ประกอบเครื่องให้เรียบร้อย

9. เปิดเบรกเกอร์แอร์และทดสอบการทำงานของเครื่องประมาณ 15-30 นาทีเพื่อเช็คความเรียบร้อย

เพียงเท่านี้ แอร์ Daikin ของเราก็จะสะอาดหมดจดปราศจากเชื้อโรคแล้ว

รีวิว แอร์ LG ของดีต้องทดสอบก็ใช้งาน

ใครเคยประสบพบเจอปัญหานี้บ้าง  ที่จู่ๆแอร์ที่บ้านก็ไม่เย็นซะงั้น เอ๊ะ มันเป็นอะไรกันนะ เคยสงสัยมั้ยคะว่าอาการที่แอร์ที่บ้านเราเป็นนั้นเกิดจากอะไร  ถ้าเกิดว่าจู่ๆแอร์มีอาการผีเข้าผีออก เดี๋ยวเย็นเดี๋ยวไม่เย็น อย่างแรกเลยควรสังเกตรีโมตแอร์ก่อนว่าตั้งอุณหภูมิหรือตั้งโหมดการทำงานถูกหรือไม่  ถ้าเป็นที่การตั้งรีโมตจริงๆ จะได้ไม่เสียเงินและเสียเวลาในการเรียกช่างมาตรวจสอบ และถ้าไม่ได้เกิดจากการตั้งรีโมตผิด ก็ควรสังเกตด้วยว่ามีชิ้นส่วนใดไม่ทำงานบ้าง หรือท่อน้ำยาแอร์เป็นน้ำแข็งหรือเปล่า น้ำยาแอร์ รั่วหรือ ไม่ ซึ่งถ้ามีอาการเหล่านี้ควรปิดแอร์ทันที เติมน้ำยาแอร์ ราคา ไม่แพง เปลืี่ยนคอมเพรสเซอร ราคาแพงมาก อย่าฝืนเปิดเพราะอาจจะทำให้ยิ่งเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมเพิ่มขึ้นอีกและควรเรียกช่างมาซ่อมทันที ถ้าจะให้ดีเปลี่ยนมาใช้แอร์ LG เลยจะดีที่สุดค่ะ

ข้อดีของแอร์LGมีดังนี้

-              แอร์ LGหน้าตาดี สวยงาม หรูหรา กลมกลืนกับเพดาน  รูปแบบทันสมัย และมีให้เลือกหลากหลาย

-              แอร์ LG ติดตั้งง่าย  ช่างบอก 

-              แอร์ LGใช้สำหรับปรับอากาศเพื่อความเย็นสบาย และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของผู้คนที่อาศัยหรือทำงานอยู่ในที่บริเวณนั้นๆ

-              แอร์ LG ใช้สำหรับปรับอากาศเพื่อการอุตสาหกรรม เพื่อควบคุมภาวะบรรยากาศในกระบวนการผลิต การทำงานวิจัย และการเก็บรักษาผลผลิตต่างๆ เช่น การปรับอากาศในอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ ฯลฯ

-              แอร์ LGไม่มีปัญหาเรื่องเรื่องน้ำหยดจากการติดตั้ง  มีเสียงเบา และเงียบกว่าแอร์ยี่ห้ออื่น

-              แอร์ LG ดูแลง่าย  ประหยัดไฟและราคาถูก  นอกจากนี้ยังมีขนาดเล็กกะทัดรัดอีกด้วย

-              แอร์ LG สามารถประยุกต์ใช้ทำความร้อนในหน้าหนาวได้

-              แอร์ LG บางรุ่นมีระบบทำความสะอาดอัตโนมัติและมีระบบเร่งความเร็ว 3 นาที          

-              แอร์ LG มีให้เลือกมากมายหลายรุ่น

-                      แอร์ LG รักษาอุณหภูมิได้อย่างสมบูรณ์แบบ

-                      แอร์ LG มีหลากหลายระบบ มีทั้งเครื่องปรับอากาศระบบ Single split ระบบ Multi -split ระบบ Multi VTM ที่เหมาะสำหรับอาคารสูง และยังมีระบบกรองอากาศร้อนเพื่อกรอง

ว้าวๆๆๆๆๆ เห็นมั้ยละคะว่าแอร์LGนั้นของเค้าดีจริงๆ ข้อดีเยอะแยะมากมายจนไม่รู้จะเยอะยังไงแล้ว เมื่อเห็นอย่างนี้แล้วมีหรอที่จะไม่เลือกซื้อหา แอร์ LG มาติดตั้งที่บ้าน รีบๆจับจองเป็นเจ้าของกันได้แล้วนะคะ ก่อนที่จะไม่ทันเพื่อน  ไปกันเล้ยยยยยยย

หน้าร้อน เปิด แอร์ หรือ เปิดพัดลม ก็เย็นได้

อากาศร้อน ไม่ต้องเปิดแอร์ เปิดพัดลมไอเย็นดีกว่า ประหยัดกว่า                

อากาศประเทศไทยในปัจจุบันนั้นค่อนข้างมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นทุกวัน หรือเรียกได้ว่าร้อนมากเลยทีเดียวค่ะ หลายท่านจึงมองหา สิ่งอำนวยสะดวกเพื่อคลายร้อน ที่นิยมส่วนใหญ่ก็พัดลมค่ะ มีให้เลือกหลากหลายแบบมาก ทั้ง พัดลมไอน้ำ พัดลมไอเย็น หรือเป็นแบบพัดลมธรรมดา ก็แล้วแต่ความสะดวกของท่านในการเลือกซื้อมาค่ะ ในส่วนของพัดลมไอเย็นกับพัดลมไอน้ำ มีหลายท่านเข้าใจผิดคิดว่ามันคืออันเดียวกันแต่จริงๆแล้ว มันคนละแบบกันค่ะ พัดลมไอเย็น น้ำนั้น จะทำงานโดยการพ่นละอองน้ำออกมาแล้วใช้พัดลมเป่าให้ละอองน้ำเกิดกระจายตัว จึงเหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความชื้นมากๆ เช่น ที่โล่งแจ้ง แต่อาจไม่เหมาะกับที่อับ เช่น ภายในบ้าน หรือโรงอาหาร ค่ะ ส่วนพัดลมไอเย็นนั้น มีการทำงานด้วยการดึงความร้อนของอากาศผ่านแผ่นทำความเย็นที่อยู่ด้านใน จนน้ำระเหยออก ทำให้มีอุณหภูมิที่ลดลง จึงทำให้พื้นที่โดยรอบรู้สึกเย็นสบาย สดชื่น โดยไม่มีความชื้นในอากาศเข้ามารบกวน เหมาะกับบ้านพักอาศัยมากกว่าค่ะซึ่งพัดลมไอเย็นนั้นมีหลักการทำงานง่ายๆดังนี้ค่ะ

พัดลมไอเย็น เป็นพัดลมที่ทำงานผ่านระบบ Evaporative Cooling Systems หรือการดึงความร้อนจากอากาศผ่านแผ่นทำความเย็นที่อยู่ภายในเครื่อง โดยเมื่อสัมผัสกันจะทำให้น้ำระเหยและแปรเปลี่ยนเป็นไอเย็นที่ส่งผ่านออกมาจากเครื่อง ช่วยให้อุณหภูมิภายในห้องลดลงได้ และเกิดความเย็นสบายคล้ายกับแอร์บ้านค่ะ แต่แน่นอนค่ะว่าพัดลมไอเย็นนั้นย่อมมีราคาถูกกว่าแอร์บ้านอยู่แล้วค่ะ ซึ่งข้อดีของพัดลมไอเย็น คือ สามารถ ลดอุณหภูมิได้ 4-10 องศาเซลเซียสโดยไม่มีละอองน้ำจึงไม่ทำให้อับชื้นและได้ลมเย็นสดชื่น เหมือนลมธรรมชาติใช้ได้ทั้งในพื้นที่เปิดและปิดหรือภายนอกและภายในบ้าน ใช้งานง่ายไม่ซับซ้อนแถมยังเคลื่อนย้ายสะดวก อีกทั้งยังช่วยประหยัดไฟประหยัดน้ำ เพราะภายในเครื่องมีการหมุนเวียนน้ำในระบบ บำรุงรักษาง่าย และเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมน้อยหากเกิดการชำรุด ไม่เหมือนแอร์บ้านที่ต้องเสียค่าบำรุงรักษาเครื่องที่แพง แต่พัดลมไอเย็นนั้นก็มีข้อเสียเล็กน้อยเช่นกันค่ะ ตรงที่ต้องคอยเติมน้ำจึงจะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและหากใช้ในห้องปิดนาน ๆ อาจเกิดจะกลิ่นอับชื้นได้ค่ะก็เหมือนกับการใช้แอร์บ้านที่ต้องมีการฉีดสเปรย์น้ำหอมปรับอากาศ เพื่อไม่ให้เกิดกลิ่นอับมากจนเกิดไปค่ะ และที่สำคัญต้องหมั่นทำความสะอาดช่องใส่น้ำถือว่าเป็นการบำรุงรักษาเครื่องไปในตัวค่ะ และสุดท้ายอาจให้ความเย็นได้ไม่เท่าแอร์บ้านค่ะ 

มารู้จักแอร์ อินเวอร์เตอร์กันเถอะ

เครื่องปรับอากาศระบบอินเวอร์เตอร์

                เครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันได้นำเอาระบบอินเวอร์เตอร์ (inverter) มาใช้เพื่อเป็นการประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าลง โดยนำเอาความรู้ทางด้านอิเล็ดทรอนิกส์และไมโครคอมพิวเตอร์เข้ามาใช้ในการควบคุมการทำงานของระบบเครื่องปรับอากาศ ให้ทำงานได้โดยอัตโนมัติและมีประสิทธิภาพสูงสุด ควบคุมการทำความเย็นโดยปรับอุณหภูมิภายในห้องให้คงที่มากที่สุด ตลอดจนควบคุมความชื้นสัมพันธ์ของอากาศภายในห้อง ให้อยู่ในค่าที่ร่างกายกำลังสบาย

                ระบบอินเวอร์เตอร์จะมีไมโครคอมพิวเตอร์ตรวจสอบอุณหภูมิในและภายนอก แล้วเลือกการทำงานเองว่าจะต้องทำความเย็นหรือกำจัดความชื้นให้แก่อากาศภายในห้อง ส่วนการควบคุมอุณหภูมิภายในห้องจะทำโดยการเปลี่ยนค่าความถี่ของไฟฟ้าที่ป้อนให้มอเตอร์คอมเพรสเซอร์ จะทำให้ความเร็วรอบของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ลดลง ส่งผลให้ปริมาตรการดูดน้ำยาแอร์ในระบบน้อยลง การกินไฟของมอเตอร์คอมเพรสเซอร์ก็จะลดลงด้วย

                ขณะที่ระบบเริ่มทำความเย็น เครื่องปรับอากาศจะทำงานเต็มที่ (full power) ด้วยการทำงานความถี่ 90 เฮิรตซ์ ซึ่งจะทำให้ความเร็วรอบของมอเตอร์สูงถึง 5,400 รอบ/นาที ระบบให้ผลความเย็น 3,150 กิโลแคลอรี่/ชั่วโมง (11,340 บีทียู/ชั่วโมง) ทำให้อากาศภายในห้องเย็นลงอย่างรวดเร็ว 

และเมืออุณหภูมิของห้องลดลงใกล้กับระดับอุณภูมิที่ปรับตั้งไว้ ความถี่ของไฟฟ้าที่ป้อนเข้ามอเตอร์คอมเพรสเซอร์ จะลดลงเรื่อยๆ อันเป็นการทำงานอยู่ที่ระดับกำลังต่ำ ซึ่งจะให้ความถี่ไฟฟ้าแค่ 30 เฮิรตซ์ กินไฟเพียง 425 วัตต์

ตารางแสดง ค่าแฟกเตอร์ในการ คำนวขนาดเครื่องปรับอากาศ ( ตอนจบ )

ตัวอย่างที่ 19.1 ให้คำนวณหาขนาดเครื่องที่จะใช้ติดตั้งสำหรับห้องทำงานตามแปลน ขนาดกว้าง 4m ยาว 5m เพดานสูง 3m เป็นห้องที่อยู่ในชั้นกลางของอาคาร และตั้งอยู่ทางทิศใต้ของตัวอาคาร สภาพการใช้งาน ใช้งานทั้งกลางวันและกลางคืน จำนวนคนที่อยู่ในห้อง 3 คน มีดวงไฟภายในห้องขนาด 80 W เป็นห้องที่ไม่มีพัดลมดูดอากาศ และอุณหภูมิภายนอกห้องปรับอากาศเป็น 35ºC (95ºF)

					แฟกเรตอร์ (ตัวคูณ)					Btu/h
รายการ				จำนวน	อุณหภูมินอกห้อง ºC					(จำนวน x	Kcal/h
					32	35	38	41	43	แฟกเตอร์)
1. พื้นที่ห้อง				m2	24	32	52	76	100
2. ปริมาตรห้อง				m3	20
3. หน้าต่างที่แสงแดดส่ง	เหนือ		ใต้
(เลือกเฉพาะด้านที่	ใต้/ออก		เหนือ/ออก	m2	460	480	540	600	660
ได้รับความร้อน	ตกเฉียงใต้		ตกเฉียงเหนือ	m3	840	880	920	980	1,040
สูงสุดเพียง	ตก		ตก	m2	1,140	1,200	1,260	1,320	1,380
ด้านเดียว)	ตกเฉียงเหนือ		ออกเฉียงเหนือ	m2	620	660	700	760	820
4. หน้าต่างทุกบานไม่รวมในข้อที่ 3				m2	120	160	220	280	340
5. ผนังภายนอกห้องด้านที่ถูกแสงแดดส่อง				m2	120	144	180	200	228
6. ผนังด้านนอกทั้งหมดไม่รวมในข้อที่ 5				m2	68	100	148	180	220
7. ผนังด้านในติดกับห้องที่ไม่ได้ปรับอากาศ				m2	32	44	68	84	100
8. ฝ้าเพดานหรือหลังคา				m2	24	32	52	76	100
(ใช้บรรทัดเดียว)
		ไม่มีฉนวน		m2	88	108	140	160	180
เพดาน		ฉนวน 2 หรือมากกว่า		m2	32	32	44	44	56
		หลังคาไม่มีฉนวน		m2	184	212	236	264	288
9. จำนวนคนที่อยู่ในห้อง					600
10. หลอดไฟและเครื่องไฟฟ้าในห้อง				วัตต์	3
ความร้อนทั้งหมด				Btu/h						Kcal/h